สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ในรูปแบบออนไลน์ “ปั้นครูเป็นยูทูบเบอร์” โดยมี ดร.อโณทัย ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม นายปิลัทธ์ อุดมวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 กล่าวรายงาน

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีนโยบายส่งเสริมให้ครูจากทั่วประเทศร่วมกันผลิตและเผยแพร่เทคนิคการจัดการเรียนการสอนที่น่าสนใจและทันสมัยในรูปแบบของยูทูบเบอร์ (Youtuber)  เพื่อเป็นการร่วมสร้างสรรค์เนื้อหาที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์การใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21โดยได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรจากสื่อมวลชน ผู้ประกาศข่าว ผู้ดำเนินรายการ ชื่อดัง และสถานีโทรทัศน์การศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Channel) ดำเนินงานโครงการพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ในรูปแบบออนไลน์ “ปั้นครูเป็นยูทูบเบอร์” มุ่งเน้นการพัฒนา  และส่งเสริมบุคลากร  ให้มีความรู้ความเข้าใจทักษะการเป็นยูทูบเบอร์ รวมถึงสนับสนุนการผลิตและเผยแพร่เทคนิคการจัดการเรียนการสอนที่น่าสนใจและทันสมัยให้เชื่อมโยงกับช่องทางออนไลน์ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล 

ในการนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 เป็นเจ้าภาพจัดการอบรม เพื่อพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาด้านทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ในรูปแบบออนไลน์สู่การเป็น “ครูยูทูบเบอร์”  จัดทำสื่อการเรียนรู้ และจัดทำแนวทางการต่อยอดขยายผลการพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ในรูปแบบออนไลน์ “ปั้นครูเป็นยูทูบเบอร์” โดยองค์ความรู้ที่ได้จากการจัดอบรมครั้งนี้  จะขยายผลให้กับคุณครูทั่วประเทศ ในรูปแบบของคลิปวีดีโอ และ E-BOOK 

    การจัดอบรมในครั้งนี้ มีผู้เข้ารับการอบรมซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายนำร่องพัฒนาประกอบด้วย ครูผู้สอนจาก 5 เขตพื้นที่การศึกษาใน 2 จังหวัด ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตากเขต 1 และ 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัยเขต 1 และ 2 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 38 สำนักงานเขตละ 15 คน รวม 75 คน รวมถึงคณะทำงานจาก สพฐ.ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคและผู้ที่เกี่ยวข้อง กว่า140 คน