สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 (สพป.ตาก เขต 2) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดการศึกษาในพื้นที่ภาคเหนือ ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ.เป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีหน่วยงานในสังกัดทุกพื้นที่ทั่วประเทศ การบริการด้านการศึกษามีจำนวนมาก ทิศทางการพัฒนาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสามารถส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศได้โดยตรง ความหลากหลายของพื้นที่ภาคเหนือด้านภูมิศาสตร์ของประเทศมีผลกระทบต่อการจัดการศึกษา ทั้งโรงเรียนปกติโรงเรียนพักนอน โรงเรียนในพื้นที่ภูเขาสูง โรงเรียนโครงการพระราชดำริ โรงเรียนประชารัฐ โรงเรียนขนาดเล็ก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดการศึกษาในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อรับนโยบายในการปฏิบัติ เพื่อรับนโยบายในการบริหารจัดการ และเพื่อให้การปฏิบัติงานและการดำเนินงานเป็นไปอย่างมีคุณภาพ โดยนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ในการเดินทางมาประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำนโยบายเรื่องการจัดการศึกษามามอบให้กับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทั้งประถมและมัธยม จำนวนทั้งสิ้น 53 เขต ด้วยกัน และนำไปสู่การปฏิบัติ นอกจากนั้นแล้วยังเป็นการติดตามการดำเนินงานปัญหาอุปสรรคและแนวทางการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพการดำเนินงานประสบการณ์การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน สร้างความเข้าใจและนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติแก่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมประชุมประกอบไปด้วยผู้บริหารระดับสูง ผู้อำนวยการสำนัก ผู้เชี่ยวชาญในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา และคณะทำงานจัดการประชุมจากส่วนกลาง และเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 ประชุมร่วมกัน รวมทั้งลงพื้นที่เยี่ยมโรงเรียน และห้องเรียนสาขาที่อำเภอท่าสองยาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 โดยมีนายอโณทัย ไทยวรรณศรี ผอ.สพป.ตาก เขต 2 และผู้บริหารให้การต้อนรับ ซึ่งโรงเรียนในสังกัดอยู่ในพื้นที่ห่างไกล จะทำให้ได้เห็นสภาพบริบทที่แท้จริงในพื้นที่ เด็กส่วนใหญ่มีความหลากหลายทางกลุ่มชาติพันธุ์ ทำให้ผู้บริหารระดับสูงได้รับทราบข้อมูลปัญหาและอุปสรรคในการจัดการศึกษา โดยจะได้นำข้อมูลไปศึกษาและหาแนวทางในการพัฒนาช่วยเหลือต่อไป