Print this page
Wednesday, 20 December 2017 20:10

สมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงงาน โรงเรียนท่านผู้หญิงพรสมฯ

Rate this item
(0 votes)

IMG 1135

เวลา 09.16 น. วันที่ 19 ธันวาคม 2560 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินโครงการตามพระราชดำริ ณ โรงเรียนท่านผู้หญิงพรสม กุณฑลจินดา อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ซึ่งเปิดสอนชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียน 520 คน โดยได้พัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนในด้านต่าง ๆ เช่น นำนวัตกรรมการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้สำหรับเด็กบนพื้นที่สูง หรือ RRC มาปรับใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอ เพื่อให้อ่านและเขียนภาษาไทยได้ โดยผลิตสื่อการเรียนการสอนให้เรียนรู้สระ พยัญชนะ และวรรณยุกต์ไทย รวมถึงการทำท่าประกอบเพลง เพื่อให้เกิดการจดจำและให้นักเรียนมีส่วนร่วม ส่งผลให้สามารถฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาไทยได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังขยายผลสู่ชุมชนด้วยการจัดตั้งโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการฟัง พูดภาษาไทยเพื่อการสื่อสารสำหรับผู้ใหญ่บนพื้นที่สูง โดยมี ครู นักเรียน และอาสาสมัคร ไปสอนภาษาไทยให้ชาวบ้านอ่านออกเขียนได้ และสื่อสารได้ดีขึ้น, ด้านวิทยาศาสตร์ มีการทดสอบการหาวิตามินซีของพืชผัก และผลไม้ในท้องถิ่น เพื่อให้เรียนรู้เรื่องวิตามินซีและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน, ด้านการฝึกอาชีพ มีการแปรรูปคุกกี้เพื่อสุขภาพซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ เพื่อให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และสร้างรายได้ โดยจำหน่ายผ่านสหกรณ์โรงเรียน นอกจากนี้ ยังมีการทำธูปตะไคร้และครีมตะไคร้หอมไล่ยุง, การนำต้นกล้วยป่าที่มีมากในพื้นที่มาทำกระดาษสา และนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และนำเศษผ้าปกาเกอะญอที่เหลือใช้มาทำเป็นพวงกุญแจ กระเป๋าเครื่องสำอาง และกระเป๋าเงิน ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์และหน่วยทันตกรรมพระราชทาน กับทรงเยี่ยมราษฎรที่ไปเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ รวมถึงทรงติดตามการดำเนินโครงการสร้างป่าสร้างรายได้ ในพื้นที่จังหวัดตาก ซึ่งกรมป่าไม้ ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ สนองพระราชดำริ เพื่อให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน โดยให้ชาวบ้านที่สมัครใจเข้ามาเป็นสมาชิก และนำพื้นที่ของตนเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งจะมีการให้ความรู้เรื่องการปลูกแบบพืชแบบผสมผสานตามความเหมาะสม ผลผลิตที่ได้นำไปต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ช่วยสร้างรายได้ ปัจจุบัน มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการฯ 151 กลุ่ม ขอบคุณเนื้อหาข่าว...ข่าวในพระราชสำนัก

Read 1768 times